รีวิวชุดจับ Double Flash

รีวิว DJI OSMO เปิดกล่อง

รีวิว ขาตั้งกล้อง ยี่ห้อ Benro GC258F GoClassic Carbon Fiber Tripod

รีวิว ขาตั้งกล้อง ยี่ห้อ Benro GC258F

7. ท่องเทียวต่างประเทศ ทำประกันดีไหม?

7. ท่องเทียวต่างประเทศ ทำประกันดีไหม?

การท่องเที่ยวต่างประเทศ ควรทำไว้ครับ 

แม้ว่าจะจ่ายเงินไปกว่า 1000 กว่าบาท เพื่อไปเที่ยว 2-3 สัปดาห์ โอกาสที่เจออะไรเวลาอยู่ต่างประเทศก็จะมีความเสี่ยงสูง 

การซื้อประกันก็ขึ้นกับ วัตถุประสงค์และความจำเป็นครับ 

การทำประกันต่างประเทศมี 2 แบบ 

1. แบบรายเที่ยว 

2. แบบรายปี (แนะนำ ไปต่างประเทศ 3-4 ประเทศต่อปี ให้ทำแบบนี้จะคุ้มครับ)

สิ่งควรดู ก่อนจะซื้อประกัน

1. ค่ารักษา

2.ค่าชดเชย

3. ฉุกเฉิน

4. ค่าห้อง รักษา

5. คุ้มครองสัมภาระ

6 การยกเลิก เที่ยวบิน เปลี่ยนเที่ยวบิน เปลี่ยนเวลา

อย่าคิดว่า ไม่เป็นอะไร ถ้าเราเป็นอะไร เราจะเสี่ยงมาก และเสียเงินมากกว่า ประกันเพียงเล็กๆ น้อยๆ ครับ

ขอบคุณครับ

ไมตรี ฮิน

https://www.facebook.com/Hin255/

6.เตรียมพร้อมก่อนขึ้นเครื่องบิน 

ก่อนขึ้นเครื่อง ควรตรวจสิ่งของให้พร้อมก่อนเดินทางครับ

มีดังนี้

1.  Passport

2. ตั๋วเครื่องบิน ปริ๊นออกมาก่อนไป และกลับ เผื่อไว้ครับ

3. ไปก่อนเวลาทุกครั้ง ถึงก่อน เผื่อเวลารถติดครับ

4. ไปที่นั้นควรระวัง พวกขโมยของ

5. นับกระเป๋า สัมภาระว่าครบไหม

6. เช็คน้ำหนักก่อน นั้ง Taxi ไป Check in ไม่เกินกว่าที่กำหนดไว้

7. สาย Charger หรือแปลงไฟ ไม่ควรลืม

8. ที่ชั่งแบบพกพา 

9. เงินติดตัวพอควร

10. กุญแจสำรอง แยกไว้ มี ซะ 2 ชุด กันไว้ เผื่อหาย

11.โทรศัพท์ 

12. อุปกรณ์ ที่จำเป็นไปใช้งาน

 https://www.facebook.com/Hin255/

ขอบคุณมากครับ

ไมตรี ฮิน

Hin255

5. สิ่งต้องห้าม นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน

5. สิ่งต้องห้าม นำติดตัวขึ้นเครื่องบิน

การขึ้นเครื่องควร ระวังสิ่งที่นำไป อาจจะทำให้เราต้องทิ้งของราคาแพงไป หรือ อาจจะโดนจับกุมโดยไม่รู้ตัว

อะไรบ้างที่ไม่ควรขึ้นเครื่อง 

 1. อาวุธ ต่างๆ 

2. ของมีคมต่างๆ 

3. Power bank ที่เกินกว่า 32,000 mAh 

4. อาหารที่ส่งกลิ่นเหม็น

5. สัตว์มีพิษต่างๆ 

6. ผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง น้ำดื่ม หนึ่งภาชนะ ไม่เกิด 100 ml หรือ รวมกันแล้วไม่เกิน 1000 ml

7. วัตถุไวไฟต่างๆ

8. ขาตั้งกล้อง

9. ของกรด สารอันตรายต่างๆ

ก่อนไปก็ต้องเช็คให้ดีๆ นะครับ

ขอบคุณมากครับ

ไมตรี ฮิน

เข้าทักทายกันได้ที่ https://www.facebook.com/Hin255/

July 20 2016

4.สิ่งของหายในสนามบิน ทำอย่างไร ???

กรณีที่ เราลืม สิ่งของไว้ใน สนามบิน ควรทำอย่างไร

ตัวอย่างที่ผมลืม Macbookpro 13" Retina ภายในที่ Taiwan Terminal Airport Taipei

สิ่งควรทำ

1. ตั้งสติไว้ก่อน
2. รีบแจ้ง พนักงานแอร์โฮสเตส สถานที่เราลืมไว้

3.กรณีเข้ามาในอาคาร แล้ว ให้ไปแจ้ง แผนกสิ่งของหาย 

4. กรณีที่เจ้าหน้าที่พบสิ่งของ ก็จะแจ้งเราแล้วให้นำหลักฐาน เช่นบัตรประชาชน ตั๋วเครื่องบิน ยื่นให้เจ้าหน้าที่

ส่งหลักฐานไปทาง อีเมลล์

หลักฐานที่ต้องส่งไปมี

1. หางตั๋วเครื่องบิน

2. ใบ หน้า VISA 

3.หน้าPassport

ขอบคุณมากครับ

ไมตรี ฮิน

เข้าทักทายกันได้ที่ https://www.facebook.com/Hin255/

July 18 2016

3.สะสมไมล์เที่ยวบินกันเถอะ

3.สะสมไมล์เที่ยวบินกันเถอะ

สายการบินไทย Thai Airway 

เว๊ปไซท์
http://www.thaiairways.com/th_TH/rop/index.page

ไม่ว่าเราจะมี Tablet โทรศัพท์ โน๊ตบุ๊คหรือคอมพิวเตอร์ ก็สมัครได้ครับ

1. คลิ๊กไปที่ 

2. ใส่ ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เสื้อชาติ เลข Passport และ ID บัตรประชาชนครับ

3. ใส่ข้อมูล  ที่อยู่ อีเมลล์และเบอร์โทรศัพท์

4. จากนั้นใส่ข้อมูลที่ต้องการเลือก

5. รายละเอียดการล็อคอิน  เช่น Test1234 ให้ครบ 8ตัวรวมตัวเลขอย่างน้อยซะ 1ตัวครับ แล้วคลิ๊กปุ่ม 

6. ต่อมาก็เป็นแค่ ข้อให้เราตรวจสอบอีกครั้งว่ามีผิดที่ไหน คลิ๊ก Submit ได้เลยครับ

     

หลังจาก Submit เราจะได้ รหัสประตัวเราครับ 

ขอบคุณครับ

ไมตรี ฮิน

July 17 2016

2.นั้งเครื่องบิน โหลดกระเป๋าน้ำหนักเกินถูกปรับเงินไหม ?

2.โหลดกระเป๋าน้ำหนักเกินถูกปรับเงินไหม ?

โดยปกติ มาตราฐานน้ำหนัก สายการบินภายในประเทศ เริ่มต้นที่ 15 Kg ครับ

Air Asia

ค่าปรับเกิน Kg ละ 400 บาท

ลองเช็คราคา 

http://goo.gl/TXUbFB

Thai Lion Air

ภายในประเทศ 15 กก  เกินกิโลละ 400 บาท

ระหว่างประเทศ 20 กก เกินกิโลละ 500 บาท

http://www.lionairthai.com/en/th/Terms-and-Conditions

Nor Air

กรณี น้ำหนักเกิน ปรับเงินที่ 300 บาท ต่อ kg ภายในประเทศ และ 400 บาท ต่อ Kg ระหว่างประเทศ

http://goo.gl/8NxDeg

Tip เล็กๆ นำมาฝากกันครับ

ไมตรี ฮิน Hin255

July 16 2016

วิธีการค้นหา GPS ผ่านโทรศัพท์มือถือ iPhone.

เป็นอีก App  Browse Stree View Images แล้วลากลงไปที่สถานที่ สามารถเข้าไปมุมมองแบบ จริงๆ ได้

เข้ามาวิธีการค้นหากันครับ

1. เปิด App "Google Earth" มาก่อนครับ หรือใครไม่มีก็สามารถเข้าไป Dowload ที่ App Store ได้เลยครับ มีให้โหลดมาใช้งานฟรี!!!

2.ค้นหา ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ แล้วกด "ค้นหา"

3.  จากนั้นให้กด "Done"

4. ลาก ซูมเข้าไปสถานที่  ดังรูป

5.กด แถบเมนู มุมบนขวา เลือก "Setting"

6. เลือก Postion

7.ได้ ตำแหน่งพิกัด GPS กด ค้างที่ตำแหน่ง GPS กด Copy

8. พิกัดไป ใช้ใน App GPS  ดังตัวอย่าง ผมใช้โปรแกรม Sygic 

ขอบคุณมากครับ

ไมตรี ฮิน Hin255

July 16 2016

เที่ยวฮอกไกโด 6 วัน 5 คืน ตอนที่ 4 การเดินไปเมืองท่าเรือ Hakodate  2 วัน 1 คืน

วันที่ 4  April 28 2016 

    เมือง ฮาโกดเตะ เป็นอีกเมือง ที่มีบรรยากาศโรแมนติก ทั้งประวัติศาสตร์ และความสำคัญที่เป็นเมืองท่าเรือเก่าแก่ ทั้งยังเป็นเมืองที่ อเมริกายกพลขึ้นบกเพื่อบังคับให้ ญี่ปุ่นเปิดประเทศในการค้าขาย เมืองนี้มีสถานที่จุดชมวิวมากมาย  ที่จะทำให้คุณประทับใจเมืองนี้อย่างแน่นอน

การเดินทาง จากเมืองซัปโปโร ด้วยรถไฟ ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ถ้าซื้อแบบไปกลับ ก็อยู่ที่ 17,200 เยน (ประมาณ 5,504 บาทต่อคน)  แต่ถ้าเราไปหลายๆ เมืองในฮอกไกโด แนะนำให้เลือกใช้ Hokkaido Rail Pass (24,000 เยน หรือ 7,680 บาท) จะคุ้มมาก 

การจองตั๋วที่นั้ง ควรจองตั้งแต่ลงจาก สนามบิน  Chitose  แนะนำให้จอง ที่นั้งฝั่งซ้ายมือจะมีวิวสวยให้ถ่ายและชมกันครับ 

การนั้ง  Tram ที่นี้ แนะนำให้ซื้อ
Tram 1 day pass 1000 Yen ใช้ได้ทั้ง Tram และ Bus เพราะผมต้องการขึ้นถ่ายภาพบนจุดชมวิวด้วย เมื่อเทียบการไปขึ้นกระเช้า ไปกลับ  1,160 เยน จะคุ้มค่าและประหยัดกว่า และเย็นกว่า แต่ถ้าใครต้องการ ถ่ายภาพจากจุดกระเช้าก็ต้องยอมถ่ายแพงหน่อยครับ แต่ผมเอาประหยัดไว้ก่อนครับ

การเดินทางวันนี้ 

 Check out จากโรงแรม ตั้งแต่ 6:00 น. เพื่อไปขึ้นรถไฟ เที่ยว เช้าเวลา 6:52 ซึ่งเวลาพระอาทิตย์ที่ ฮอกไกโดอยู่ประมาณ 4:00 น   ตื่นขึ้นช่วงเมษายนที่ญี่ปุ่นก็เช้าเลยครับ ฮ่าๆๆ

ตารางเวลา รถไฟดาวน์โหลด ได้ที่ http://www2.jrhokkaido.co.jp/global/english/railpass/rail.html

เลือกเส้นทาง Sapporo -  Higashi - Muroran - Hakodate

 

ตารางเวลารถไฟ

 ข้าวเช้า ผมซื้อ ร้านสะดวกซื้อขึ้นไปทานบนรถไฟครับ

ข้าวปั้นกับ กาแฟ และตั๋วรถไฟ

 

"tilting express train"

 รถไฟ Super Hokuto ที่ในสายนี้ จะมีสีฟ้าเงิน จะวิ่งแค่  Sapporo ==> Hokodate เท่านั้นครับ

ภายในสถานี Hokodate

 ให้ตรงไปซื้อตั๋วภายในห้อง Information ได้เลยครับ

ตั๋ว รถรางและบัส แค่ 1000 เยนเท่านั้น

ให้ขึ้นเบอร์ 2 ไปหอ Goryokaku

 รถรางไป โรงแรม Dormy Inn และ Goryokaku ขึ้นรถรางเบอร์ 2 ครับ

เส้นทางไป โรงแรม และ Gorokaku

     ก่อนไป Hokkaido ผมได้จอง Online ไว้ที่โรงแรม Dormy Inn Express ไว้หนึ่งคืน ใกล้สถานที่จุดชมวิว และซากุระ Gorokaku ซึ่งวันที่ไป ซากุระบานแล้วครับ สวยงามมาก แต่ช่วงเวลาบ่ายโมง ฝนเริ่มโปรยลงมาทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพอะไรได้มากมาย

ถึงโรงแรมแล้วครับ

เนื่องจากไปก่อนเวลา  Check in เวลาบ่าย 3 โมง เลยต้องฝากกระเป๋าไว้ที่ โรงแรมก่อนครับ ฟรีครับ

Check in  โดยยืนหมายเลขการจองจาก Booking.com  ได้เลยครับ

ภายในโรงแรมครับ

แฟนนำทางไป  Goryokaku ครับ

แอบถ่ายภาพ น่ารักๆ ซะหน่อย

มีป้ายตลอดทาง

ท้องฟ้า มืดมากกกก เศร้าใจ

ด้านหน้า ที่ซื้อตั๋ว

ภายในชั้นล่าง มีที่นั้งและอาหารให้ซื้อทานกัน

เนื่องจากวันนี้ อากาศไม่ดี ผมจึงเปลี่ยนใจ ไม่ขึ้นไปถ่ายภาพ รอไปพรุ่งนี้เช้าดีกว่า จึงออกไปเก็บภาพ ซากุระด้านนอกก่อนครับ แต่เก็บภาพได้สักครู่ ฝนก็เริ่มปรอยลงมา

ด้านข้าง หอคอย มีซากุระให้ชมกันครับ

ฟ้าวันนี้ ขาวจริงๆ  ฮ่าๆ

มีที่นั้งทานอาหาร

ถ่ายภาพได้ตามสบาย ฟรีซิครับ

หลังจากทานข้าวกล่อง มื้อเที่ยงกันแล้ว ก็นั่งรถราง เบอร์ 5 ไปท่าเรือ เก่าแก่ใน Hokodate ครับ

รถรางเบอร์ 5

ภายในรถรางเบอร์ 5

ตั๋ว Day Pass

สถานที่ ผมเลือกคือ ท่าเรือและโกดังอิฐแดง จริงๆ มีหลายที่ ที่อยากไป แต่เนื่องจากฝนตกไม่หยุดทำให้ ผมมาที่นี้แทนครับ

       โกดังเก่าแก่ที่ถูก ดัดแปลงเป็นที่ขายสินค้า สำหรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของที่ระลึก ทำให้ผมนึกถึง Asiatique ที่ กทม คล้ายๆเลย อายุของโกดังนี้ประมาณ 100 ปีกว่าเลยครับ มีจำนวน 5 -6 หลังด้วยกัน มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และโรงเบียร์ให้มาดื่มด่ำบรรยากาศแนว Vintage กันเลย

ฝนตกหนัก ลมแรงมาก ผมกางร่มถ่ายภาพ

     คิดดูว่ามาแล้ว ผมเองก็เกือบจะยอมแพ้ เลิกถ่ายแต่มีจังหวะฝนตกเริ่มเบาลง ก็เลยออกจากตึกมาถ่ายภาพ และ วิดีโอจนได้  กล้อง 7D II ที่นำมาคิดว่า ทนต่อสภาพอากาศดีมากอากาศภายนอกประมาณ 7-10 องศา   หนาวและทรมานจริงๆ

หน้าข้างของตึก

หลังจากเดิน ซื้อของภายใน อาคาร ก็ได้เวลาไปขึ้นรถเที่ยวแรก เวลา 18:00 น เพื่อไปเก็บภาพ เขา ฮาโกตาเตะที่มีความสวยติด 1 ใน 3 ของแกะ ฮอกไกโดเลย 

เวลาแต่ละวันอาจจะไม่เท่ากัน อย่างไรก็ไปถาม Information  ภายในตึกโกดังได้ครับมีบริการให้ข้อมูลอยู่ครับ

เวลาเที่ยวแรกคืน 18:00 

สถานีที่รอ คือ Jujigai ใกล้โกดังแดงที่สุดครับ

สถานที่ขึ้นรถ

ป้ายมีบอกเป็น อักษรจีน (หรือคันจิของญี่ปุ่น) และมีเวลาบัสมาถึงด้วยครับ

บัสมาถึงแล้วครับ เวลาตรงมาก

วันนี้ฝนตก อากาศ 6 องศา มีป้ายเขียนไว้ครับ

พนักงานจะบรรยาย ภาษาญึ่ปุ่น แต่ผมฟังไม่เข้าใจนะครับ

เนื่องจาก ขึ้นฝนตกลมแรงมากครับ ให้การถ่ายภาพทำได้ยากมาก แต่ยังดีที่ฝนมีหยุดตก ทำให้มีเวลาเก็บภาพ และ Time lapse ได้นิดหน่อยครับ

จังหวะ ฟ้าเปิด แค่ 15 นาที เท่านั้น

นาทีทองจริงๆ  ฝนตกตลอดเกือบไม่ได้ถ่ายภาพเลย

จากนั้นก็กลับโรงแรมครับ รถเที่ยวสุดท้าย จริงๆ ครับ คนแยอะมากกกก

รอคิวกันยาวเลยครับ

ตั๋วเล็กๆ ไว้สำหรับจ่ายเงินก่อนลง  แต่ผมซื้อ 1DAY PASS แล้วก็แค่โชว์บัตรและหย่อนตั๋วเล็กๆ ลงไป ด้านหน้าคนขับรถ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันที่5  April 29 2016 

หลังจากผ่านไป วันใหม่ เช้าฝนก็ยังคงตก ผมก็มุ่งหน้าไปสู่ หอคอย Goryokaku วันนี้อย่างไรก็ต้องขึ้นไป เก็บภาพให้ได้ครับ 

ประวัติของหอคอย และ ป้อมรูปห้าเหลี่ยมสไตล์ ชาติตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในสมัย โชกุนโทกุกาวะ เป็นที่มั่นทางทหารฝั่งเหนือ ต่อมาเกิดสงครามกลางเมือง ป้อมและอาคารถูกฝ่านรัฐบาลสาธาณรัฐ รื้อทิ้ง และปัจจุบันได้สร้าง ขึ้นมาใหม่ ตามรูปแบบเดิม เพื่อจัดเป็น พิพิธภัณฑ์ โดยรอบป้อมจะมี ซากุระนับพันต้นให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและถ่ายภาพกัน

ประวัติของ Goryokaku

เข้าไป Download ได้ที่
https://goo.gl/k8PSBx

ระหว่างทางซื้อของ ร้านสะดวกซื้อกันก่อนได้นะครับ ราคาจะถูกกว่าภายใน หอคอย  ภายในสามารถทานอาหารได้ครับ

ทานอาหารเช้ากันก่อนขึ้นไปครับ

ราคาขึ้น 840 เยนครับ มาเป็นกลุ่ม เหลือ 760 เยน

เข้าแถว ไปขึ้นลิฟท์

เก็บภาพผ่านกระจกครับ

ภาพ Goryokaku เลนส์ 14 mm

Tip ช่างภาพ:  การเก็บภาพผ่านกระจก ควรให้เลนส์ชิดหรือ เกือบชิดกระจกมากที่สุด (ระวังเลส์กระแทกกระจกนะครับ) ใช้ขากล้องได้ครับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ห้าม หรือมีป้ายติดไว้    ระวัง!!! นักท่องเที่ยวกระแทกโดนกล้อง  ควรวางขาให้แคบสุดและไม่รบกวน หรือรบกวนคนอื่นด้วยครับ  เลนส์ที่ใช้ไม่ควรต่ำกว่า 14 mm  หรือกว้างที่สุดเท่าที่หาได้ครับ

ลงไปเก็บภาพ กันครับ ฝนหยุดตกแล้ว ไชโย!!! ขอบคุณจริงๆ ที่เปิดโอกาสให้เก็บภาพครับ

 

เก็บภาพ คู่หวานๆ ซะหน่อยครับ

 

ได้เวลากลับไป เมือง ซัปโปโรแล้วครับ ผมเลือกกลับ ประมาณ 12:00 เที่ยงครับ เพราะต้องไปซื้อของฝากอีกครับ

เดินทางกลับ หน้าสถานี Hokodate

หน้าสถานี Hakodate

 ภายในสถานี

นักท่องเที่ยว โชว์  Hokkaido Rail Pass ก็ผ่านได้เลยครับ

Hokkaido Rail Pass และ ตั๋วที่จองที่นั่งไว้แล้ว

รถไฟมาแล้ว ตรงเวลามากกก

ซื้ออาหารขึ้นไปทานครับ ประหยัดเวลา และเงินครับ

อาหารเที่ยงจ๊า

ใช้เน็ตได้คุ้มค่ามากครับ Pocket Wifi

กลับมาถึง สถานี Sapporo แล้วครับ เวลาประมาณ 4:00 เย็นพอดี

วันนี้ผมได้จองโรงแรม Rasso ที่ซัปโปโรไว้ควรระวังเรื่องการจอง ผมลืมไปว่า Non-Smoke ไม่เอาห้องสูบบุหรี่ แต่ลืมดู  เห็นราคาถูกก็เลยจองไปครับ ปรากฎว่า พอเข้าห้องไปก็ได้กลิ่นบุหรี่ เลยลงมาเช็คกับพนักงาน ปรากฎว่าเราดันไปเลือกเป็นห้อง Smoking  ไม่น่าเลย เห็นราคาถูกไม่ได้   ทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มอีก 2000 เยน  เพื่อเปลี่ยนเป็นห้องNon-Smoke นี่เป็นข้อควรระวังเวลาจองโรงแรมในเน็ทครับ

หลังจาก  Check in ก็เดินไป Shop ของฝากกัน แต่ก่อนไป Shopping แวะมาทานอาหารเย็นที่ร้าน ZERO ร้านขึ้นชื่อ ราเมน กัน มีเครื่องกด และจ่ายเองครับ

หน้าร้าน ZERO

จอดแล้ว ใส่เงิน แล้วเราจะได้บัตรเล็กๆ มาหนึ่งใบ

อาหารเย็นวันนี้จ๊า

หลังจากอิ่มอร่อย ก็ออกไป ซื้อของฝากกันที่ ย่านซ้อปปิ้งทะนุกิ โคจิ เป็นสถานที่ให้คนเดิน มีหลังคากันแดดและฝน มีของให้ ซื้อมากมาย เช่นเครื่องสำอาง ร้านอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า ราคาไม่แพงมาก และยังทำเรื่อง Tax Refund  ได้ด้วยครับ ขอคืนภาษีได้ด้วยครับ

จบไปสำหรับ Trip : Hokodate 2 วัน 1 คืน และต่อที่ Supporo นิดหน่อย ซื้อของฝาก

ขอบคุณมากครับสำหรับเข้ามาอ่าน ใน Blog ผมนะครับ
ไมตรี ฮิน
www.shutterok.com